Apex Legends Review

Apex Legends – FPS Online Battle Royal 

         ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เกมแนว Battle Royal เข้ามามีบทบาทในวงการเกมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น เป็นกระแสที่ปฏิวัติวงการเกมเลยก็ว่าได้    เนื่องด้วยสาเหตุหลายๆ อย่างเช่น รูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่,  ความท้าทาย,   การวางแผนเป็นทีม   เป็นต้น อีกทั้งตัวเกมออกแบบมาให้ใช้เวลาในการเล่นไม่ยาวนานจนเกินไป สามารถเล่นจบกันไปตาต่อตา ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามากมาย เมื่อเทียบกับเกมแนวเก็บเวลเวล RPG  ซึ่งเกมที่เราจะพูดถึงในวันนั้นก็คือ Apex Legends ตามหัวข้อนั้นเอง

ตัวอย่าง Player Interface 

         รูปแบบตัวเกมเป็นแนว Shooting แบบ FPS (First Person Shooting)   ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคย คุ้นชิน และเคยผ่านมือกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว     นำเสนอในรูปแบบของ Battle Royal ทีมละ 3 คน จำนวน 20 ทีม ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียวภาพตัวเกมค่อนข้างลื่นไหล  ตัวละครแต่ละตัวก็มีสกิลการเอาตัวรอดและท่าพิเศษที่แตกต่างกันไป    ซึ่งผู้เล่นสามารถ เลือกใช้งานได้ตามความถนัดของแต่ละคนได้ แต่ก็ยังคงคุณค่าของเกม  FPS  ไว้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแปลว่าไม่ว่าผู้เล่นจะเลือกเล่นตัวละครไหน ก็ยังคงต้องมีความแม่นยำในการยิงเช่นเคยสไตล์เกม Shooting นั้นแหละ  อ๋อ สิ่งที่สำคัญและเป็นจุดเด่นแตกต่างของเกมนี้คือ เมื่อผู้เล่นตาย  จะไม่ได้ตายทันที  สามารถนำเพื่อนเข้ามาร่วมเล่นใหม่ได้ที่จุดเรียกมาเกิดใหม่ได้อีกด้วย

ระบบ Ping ช่วยในการสื่อสารในเกมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

          จุดที่น่าสนใจอีกส่วนนึงของเกมนี้ ที่ผมค่อนข้างชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ   อยู่ตรงเรื่องของการสื่อสารระหว่างผู้เล่นในทีม มีระบบช่วยเหลือผู้เล่นได้ค่อนข้างดี  ยกตัวอย่างเช่น ระบบการแจ้งเตือนเมื่อพบเข้าปะทะกับทีมผู้เล่นอื่น,     ขอความช่วยเหลือเพื่อนเมื่อโดนยิงล้ม และระบบ  Ping  แจ้งตำแหน่ง ของที่เจอ หรือสั่งการต่างๆ  ในทีมอีกด้วย สำหรับคนไม่ที่ไม่ชอบพูดไมค์ก็สบายเลยหละทีนี้

ระบบสีกับไอเท็มในเกม

          ไอเท็มที่พบในเกม ก็ทำออกมาได้ชัดเจน      ใช้สีช่วยให้ผู้เล่นใหม่เข้าใจอะไรง่ายมากขึ้น เช่น กระสุนหนัก (Heavy Ammo) ที่ใช้สีเขียว   ใช้ร่วมกับปืนที่เป็นสีมีกระสุนรูปสีเขียว  หรือจะเป็นสีจำแนกอุปกรณ์ส่วมใส่ที่เลเวลต่างๆ   เช่นเสื้อเกราะในขั้นต่างๆ  ใช้สีต่างกันเป็นสี ทอง ม่วง น้ำเงิน ขาว ตามลำดับ    อีกทั้งเมื่อทำการสังหารศัตรูลงได้ สีของ Death Box จะแสดงออกมาชัดเจนเลยว่า ภายในกล่องมีไอเท็มสูงสุดเป็นขั้นอะไร  ถ้ามีของทองในกล่อง กล่อง Death Box จะมีสีทองเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้เล่นอีกด้วย 

ตัวอย่างปืนในเกม

          ตัวปืนที่พบทั่วไปในเกมมีค่อนข้างหลากหลายให้เลือก  ทั้งปืนสั้น  ปืนยาว ลูกซอง ปืนกล ปืนกึ่งอัตโนมัต สไนเปอร์ ระเบิดมือ ดาวกระจาย ระเบิดไฟ บลาๆ ๆๆ    เต็มไปหมดจนมึนงงกันไปเลยทีเดียว และมีระบบการประกอบปืนขณะเล่นเพื่อให้ผู้เล่นเหมือนเกมดังวัยต้นแบบ Battle Royal อยู่เหมือนเดิม ที่ขาดไม่ได้เลย Air Drop และอุปกรณ์สุดอลังเรียกได้ว่า ได้มาแทบจะถือไพ่เหนือกว่าเลยก็เป็นได้

อัตราการดรอป และรายละเอียด

          สุดท้ายนี้แล้ว ทิ้งไว้สั้นๆว่า ตัวเกมเป็นเกมแบบ Free-to-Play  นะจ๊ะ     เล่นกันฟรีตั้งแต่เริ่มเพิ่มเติมคือกล่องกาชาอันแสนเกลือ ฮา ฮา า า (ขำแห้งๆ)   แต่ผู้ผลิตก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เกมได้มีการการันตีว่าเมื่อเปิดกล่องครบทุกๆ 30  กล่องจะการันตีของระดับสีทองกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเอาใจนักเล่นสายแฟชั่นกันสุดๆ ไปเลย    ว่าไปแล้วผมไปซ้อมก่อนนะเผื่อมีทีมเก่งๆ เล่นกับเขาบ้าง ไปละครับ สวัสดี : )

อวยมามากแล้วมาบ่นในส่วนที่ลิงไม่ชอบบ้างละกัน เรื่องของอุปกรณ์แต่งปืนที่พบได้ในเกมทั่วไปนั้น มีความสับสนเล็กน้อยว่าอันนี้ใช้กับอะไร ต้องอาศัยการช่วยจดจำบ้างในอุปกรณ์บางชิ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดีที่มีบอกเราเมื่อเข้าไปใกล้ๆ ว่าใช้ได้ไหม เก็บแล้วทับกับอุปกรณ์ชิ้นเดิมหรือเปล่า เปลี่ยนแล้วดีขึ้นหรือแย่ลง